การทำกำไรด้วย RSI Hidden Divergence

RSI Hidden Divergence: สัญญาณบอกใบ้แนวโน้มต่อเนื่อง

RSI Hidden Divergence คือรูปแบบหนึ่งในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่บ่งบอกว่าแนวโน้มปัจจุบันมีโอกาสที่จะดำเนินต่อไป โดยจะเกิดขึ้นเมื่อกราฟราคาและค่า RSI (Relative Strength Index) เคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกันในช่วงที่ราคากำลังพักตัวหรือปรับฐาน

ต่างจาก Divergence ทั่วไป ที่ราคาและ Oscillator เคลื่อนที่สวนทางกัน ซึ่งบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม Hidden Divergence กลับบ่งชี้ว่าแนวโน้มปัจจุบันน่าจะยังคงดำเนินต่อไปหลังจากช่วงปรับฐาน

RSI Hidden Divergence มี 2 ประเภท คือ

• Bullish Hidden Divergence: เกิดขึ้นในช่วงขาลง ราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่ RSI ทำจุดต่ำสุดสูงขึ้น บ่งบอกถึงโอกาสที่ตลาดจะกลับตัวขึ้นและแนวโน้มขาขึ้นจะกลับมา
• Bearish Hidden Divergence: เกิดขึ้นในช่วงขาขึ้น ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ RSI ทำจุดสูงสุดต่ำลง บ่งบอกถึงโอกาสที่ตลาดจะกลับตัวลงและแนวโน้มขาลงจะกลับมา

RSI Hidden Divergence: สัญญาณบอกใบ้แนวโน้มต่อเนื่อง

RSI Hidden Divergence คือรูปแบบหนึ่งในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่บ่งบอกว่าแนวโน้มปัจจุบันมีโอกาสที่จะดำเนินต่อไป โดยจะเกิดขึ้นเมื่อกราฟราคาและค่า RSI (Relative Strength Index) เคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกันในช่วงที่ราคากำลังพักตัวหรือปรับฐาน

ต่างจาก Divergence ทั่วไป ที่ราคาและ Oscillator เคลื่อนที่สวนทางกัน ซึ่งบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้ม Hidden Divergence กลับบ่งชี้ว่าแนวโน้มปัจจุบันน่าจะยังคงดำเนินต่อไปหลังจากช่วงปรับฐาน

มี 2 ประเภทหลักของ RSI Hidden Divergence คือ

• Bullish Hidden Divergence: เกิดขึ้นในช่วงขาลง ราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่ RSI ทำจุดต่ำสุดสูงขึ้น บ่งบอกถึงโอกาสที่ตลาดจะกลับตัวขึ้นและแนวโน้มขาขึ้นจะกลับมา
• Bearish Hidden Divergence: เกิดขึ้นในช่วงขาขึ้น ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ RSI ทำจุดสูงสุดต่ำลง บ่งบอกถึงโอกาสที่ตลาดจะกลับตัวลงและแนวโน้มขาลงจะกลับมา

วิธีการใช้ RSI Hidden Divergence ในการเทรด

1. ระบุแนวโน้ม: กำหนดทิศทางของแนวโน้มหลัก (ขาขึ้นหรือขาลง)
2. มองหาช่วงปรับฐาน: สังเกตช่วงที่ราคากลับตัวทวนแนวโน้ม
3. สังเกตพฤติกรรมของ RSI: ตรวจสอบว่า RSI ทำจุดสูงสุดต่ำลง (Bearish) หรือจุดต่ำสุดสูงขึ้น (Bullish) ในช่วงปรับฐาน
4. ยืนยันสัญญาณ: ใช้ตัวบ่งชี้เพิ่มเติม เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หรือแนวรับแนวต้าน เพื่อยืนยันสัญญาณ
5. เปิดออเดอร์: เปิดออเดอร์ซื้อหากพบ Bullish Hidden Divergence หรือเปิดออเดอร์ขายหากพบ Bearish Hidden Divergence
6. บริหารความเสี่ยง: ตั้ง Stop Loss และ Take Profit เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรักษาผลกำไร

สิ่งที่ควรพิจารณา

• RSI Hidden Divergence เป็นตัวบ่งชี้ที่นำหน้า (Leading Indicator) หมายความว่ามันสามารถบอกล่วงหน้าถึงการเคลื่อนไหวของราคาได้
• ทำงานได้ดีในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน
• อาจมีสัญญาณผิดพลาดได้ ดังนั้นควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ
• ควรบริหารความเสี่ยงและจัดการเงินอย่างเหมาะสม

สรุป RSI Hidden Divergence เป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ในการระบุโอกาสในการทำกำไร แต่ควรใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ และมีการบริหารความเสี่ยงที่ดี เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเทรด